(fic) junkwang – 잘 자요(GN.)

Title: 잘 자요(GN.)

Pairing: JunKwang (Junhyung & GiKwang)

Rate: PG

Author: red.bunny

NOTE : แนะนำ กรุณาเปิดเพลง 잘 자요 ไปด้วยนะคุณ

ขอบคุณคำแปลจากนี้มากๆเลยค่ะไม่งั้นคงไม่ได้ฟิคนี้

 

 


 

“กลับมาแล้วครับ” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างอ่อนแรงทั้งที่ทั้งห้องมีเขาเพียงคนเดียว ขายาวค่อยๆพาร่างตัวเองไปที่โซฟาก่อนจะล้มตัวลงนอนไม่แม้แต่จะเปิดไฟด้วยซ้ำ เขาเหนื่อยเกินกว่าจะทำอะไรแบบนั้น

 

ครืด ครืด

 

เสียงเครื่องมือสื่อสารบ่งบอกว่ามีข้อความเข้า ตาคมเพียงแค่ปรายตามองก่อนจะใช้เวลาร่วมกว่า10นาทีในการหยิบมันขึ้นมาดู

 

ถึงห้องยังครับ? – My smile

 

เขาตัดสินใจโทรหาเจ้าของข้อความทันที แม้ว่าตอนนี้อาจจะรบกวนเวลาของอีกคนก็ตาม ขอแค่แปปเดียวเขาก็พอใจแล้ว ได้แต่ภาวนาให้อีกคนรับเท่านั้น

 

/ครับ?/

 

“ถึงห้องแล้วนะ”

 

/อ่าครับ/ ความเงียบโปรยตัวลงมาทันทีอีกคนเอ่ยเสร็จแต่ต่างคนต่างไม่มีใครวางสายเลย เขาได้แต่ปล่อยให้อีกคนทำงานต่อไปส่วนเขาทำเพียงแค่นอนคว่ำลงกับโซฟาแล้วหลับตาฟังเสียงจนเกือบเคลิ้มหลับ ถึงได้ยินเสียงอีกคนเรียกอีกครั้ง

 

/พี่จุนฮยอง?/

 

/พี่??/

 

“อืม ว่า”

 

/กินข้าวยังครับ?/ เขาเงียบเสียงเป็นการตอบว่ายัง เสียงปิดไฟจากอีกฝั่งทำให้รู้ว่านี่คงถึงเวลาปิดร้านพอดี เมื่อเห็นว่าเขาไม่ตอบอะไรอีกคนก็ถามเขาต่อทันที

 

/ให้ไปหามั้ยครับ?/

 

“ยังต้องให้ถามรึไง วันนี้วันศุกร์นะ” มือหนาตัดสายทันทีก่อนจะนอนต่ออีกซักพัก คงอีกพักใหญ่ๆกว่าที่อีกคนจะมา เขาขอพักซักหน่อยแล้วกัน

 

ยง จุนฮยองเจ้าของแบรนด์น้ำหอมชื่อดัง ตัวแบรนด์ที่นอกจากจะมีรูปลักษณ์สวยงามแล้วยังสามารถสื่อได้ถึงกลิ่นของน้ำหอมได้อย่างดีแถมยังมีน้ำหอมหลากหลายเหมาะกับทุกเพศทุกวัย ถือว่ากำลังตีตลาดได้เป็นอย่างดี แต่เพราะยังเป็นแบรนด์น้องใหม่เพิ่งเข้าวงการแค่สองสามปีเลยต้องอยู่ในช่วงพิสูจน์ฝีมือให้มาก ไม่แปลกที่เขาเองต้องออกสังคม เข้าประชุม เดินสายยิ่งกว่านักร้องออกอัลบั้ม

 

เหนื่อยแต่เขาก็ชอบ

 

แม้จะมีโมเม้นท์ไม่สนุกบ้างก็ตาม

 

จากที่เคยยืนคนเดียวตลอดสุดท้ายบางทีเขาก็อยากได้ใครซักคนที่อยู่ข้างๆเขา แค่ยืนบีบนวดไหล่ให้เขาแล้วบอกเขาว่าสู้ๆนะ แค่นี้ก็พอแล้ว

 

จนวันหนึ่งเหมือนฟ้าจะเห็นใจ เมื่อเขาไปร้านอาหารของน้องเพื่อนที่เปิดใหม่

 

เป็นวันที่เขาเจอกับอี กีกวัง

 

อี กีกวังเป็นน้องชายของเพื่อนเขาแทบไม่มีอะไรพิเศษธรรมดาไปหมด แต่เพราะความธรรมดาที่เขาไม่เคยมีจากที่ชีวิตที่ต้องสมบูรณ์แบบตลอดเวลา ทำให้เขาตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นรอยยิ้มนั่น

 

รอยยิ้มที่ช่วยฮีลเขาโดยที่เขารู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

 

รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เลขาเขาบอกว่าน้ำหนักเขาขึ้นจากการไปกินอาหารอิตาเลี่ยนร้านของกีกวังอาทิตย์ละห้าวัน

 

เลยขอเป็นแฟนซะเลยไหนๆก็ไหนๆแล้ว

 

ในวันที่เขาเปิดตัวคอลเลคชั่นน้ำหอมชุดใหม่ ‘Healing Smile’ กลิ่นหอมของโรสแมรีจางๆที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายกับคนฉีดแล้วยังทำให้คนได้กลิ่นรู้สึกผ่อนคลายไปด้วยเช่นกัน

 

จนตอนนี้ปีกว่าแล้วกีกวังยังไม่เปลี่ยนน้ำหอมเลยตั้งแต่เขาให้ในวันนั้น

 

 

 

 

แกร่ก

เสียงเปิดประตูพร้อมกับการเปิดไฟ ทำเอาคนที่นอนอยู่ต้องหลับตาแน่นเพื่อหลบแสงไฟนั้นทันที เสียงฝีเท้าของอีกคนที่เดินเข้ามาใกล้พร้อมกับมือเล็กที่ค่อยๆนวดคลึงตรงไหล่ของเขา อดไม่ได้ที่จะครางด้วยความพึงพอใจ

 

“พอดีผมเดินผ่านร้านจัมปงดูน่ากินเลยซื้อมาให้อ่ะครับ” ถุงดำถูกยื่นมาอยู่ในระดับสายตา โดยมีจัมปงสองชามอยู่ข้างใน เขาพยักหน้ารับรู้ก่อนจะลุกขึ้นมาเตรียมตัวกินมื้อเย็นในเวลาสามทุ่มแบบนี้

 

ส่วนอีกคนก็วิ่งเข้าไปในห้องครัวเพื่อเอาน้ำและแก้วน้ำมาให้เขาแล้วหายไปทางห้องน้ำแทน

 

“อ้าวไม่กินหรอ”

 

“ผมกินมาแล้ว กินให้หมดเลยนะซื้อมาตั้งเยอะ”

 

แล้วจะซื้อมาเยอะทำไมเล่าว้อย เขาได้แต่เถียงในใจเมื่อคนตัวเล็กเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเป็นที่เรียบร้อย เขาเลยต้องจัดการอาหารตรงหน้าให้หมด

 

 

 

“มานั่งนี่ครับ” เมื่อเห็นอีกคนออกมาจากห้องน้ำเจ้าคนที่นั่งเล่นโทรศัพท์ของเขาอยู่บนเตียงลุกขึ้นมาแล้วบอกให้เขานั่งตรงปลายเตียงแทน ผ้าเช็ดผมที่พาดไว้ที่ไหล่ถูกอีกคนหยิบไปก่อนจะเช็ดผมให้เขาพร้อมกับนวดศีรษะไปด้วย

 

“นั่งนี่”

 

“มันไม่ถนัดนะครับ”

 

“จะให้นั่งแบบนี้” แขนของเขาค่อยๆรอบเข้ากับเอวเมื่อรั้งให้อีกคนมานั่งตักเขาจนได้ แม้จะดูลำบากในการเช็ดผมแต่ก็ไม่การขัดขืนใดๆ หัวเขาค่อยๆซบลงกับไหล่ของอีกคนที่ดูเหมือนจะบางลงยังไงไม่รู้

 

“กินอะไรบ้างป่าวเนี่ยทำไมดูผอมลง”

 

“ผอมลงที่ไหนละครับผมน้ำหนักขึ้นด้วยนะ” แขนกอดรัดเอวอีกคนไว้แน่นกว่าเดิม กีกวังชะงักมือเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มให้อีกคนที่ดูจะงอแงเบาๆ ลงมือเช็ดผมให้เรียบร้อยก่อนที่หวัดจะกิน

 

“นอนกันเถอะครับ”

 

จะบอกว่านอนก็นอนจริงๆนั่นแหละ แม้ว่าจะปิดไฟทั่วทั้งห้องไปแล้วแต่ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่าเขายังเห็นหน้ากีกวังชัดขนาดไหน อีกคนก็ส่งยิ้มมาให้ก่อนที่มือเล็กนั่นจะจับปลายผมเขาเล่นไปมา

 

“เหนื่อยมากมั้ยครับ” ตาใสจ้องหน้าเขาไม่เลิกแต่มือยังคงเล่นอยู่กับผมของเขาจนเขาเผลอเคลิ้มไปตาม ชอบจริงๆเวลาอีกคนทำอะไรแบบนี้ มันฮีลเขาได้จริงๆ

 

“เหนื่อย แต่ตอนนี้หายละ”

 

“ไม่โกหกสิครับ” คิ้วหนาแทบจะขมวดเป็นปม จนจุนฮยองอดหัวเราะไม่ได้คนอะไรวะ น่ารักชิบ ไวเท่าความคิดปากอิ่มของอีกคนถูกปิดด้วยปากของเขาเอง เป็นการแตะริมฝีปากกันแต่เขากลับรู้สึกเหมือนได้รับพลังบางอย่างจากอีกคน

 

“หลับเหอะง่วง” ผละจากปากอิ่มนั้นเสร็จจุนฮยองค่อยถดตัวเองลงไปซบกับอกอีกคน ออกแรงกอดให้แน่นขึ้นแต่ไม่ทำให้อีกคนรู้สึกอึดอัดจนเกินไป มือเล็กยังคงอยู่บนกลุ่มผมของเขาเกลี่ยผมไปมาเหมือนเป็นการกล่อมให้เขาหลับฝันดี

 

 

 

 

การได้มองใครซักคนตอนที่กำลังหลับตาอยู่ล้วนแต่ให้ความรู้สึกน่าเอ็นดูทั้งนั้น โดยเฉพาะคนในอ้อมแขนเขาอย่างกีกวังแล้ว จะบอกว่าเขาหลง รัก ชอบ ทุกอย่างที่รู้สึกได้กับคนๆนี้เลย คนขี้เซายังคงหลับสนิทอยู่ตรงอกเขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเปลี่ยนโพสิชั่นกันตอนไหน แต่จุนฮยองจะแคร์ทำไมละในเมื่อถึงเวลาปลุกอีกคนแล้ว

 

มือหนาบีบจมูกของอีกคนเอาไว้ คิ้วหนานั่นค่อยขมวดเข้าหากันตาใสๆลืมตามองเขาด้วยความเคืองก่อนจะเป็นเขาที่ยกมือขึ้นสองข้างเป็นเชิงยอมแพ้

 

“อรุณสวัสดิ์”

 

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

 

 

จานใบโตถูกทิ้งไว้พร้อมกับแซนด์วิซน้อยอีกสามชิ้น ข้างๆกันเป็นแก้วบรรจุน้ำผลไม้ไว้สองแก้วถูกละเลยจากบุคคลที่อยู่ในห้องที่กำลังเข้าสู่ภวังค์ของแต่ละคน

 

“พี่จุนฮยองครับ” เสียงของคนที่หนุนตักเขา ทำให้จุนฮยองต้องละสายตาจากหนังสือเล่มโปรดมามองอีกคน ที่เหมือนว่าจะปิดหนังสือของตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

“หืม?”

 

“ไปเดินเล่นกัน”

 

 

 

“ไหนบอกไปเดินเล่นไง” แขนเขายังคงรอบเอวอีกคนที่กำลังปั่นจักรยานด้วยความเร็ว จนเขากลัวว่าจะล้มกันซักที่แน่ๆ

 

“ว้าว ดูสิครับ” คนปั่นชี้ไปที่แม่น้ำที่กำลังมีตะวันตกดิน จุนฮยองเองก็หันไปมองตามก่อนจะกระชับแรงกอดมากขึ้นเมื่ออยู่ๆอีกคนก็เร่งความเร็วจนเขาแทบตก ไม่ทันจะเอ็ดอะไรอีกคนก็หัวเราะเสียงใสกลับมาจนเขาลืมไปหมดว่าจะบ่นอะไร

 

ความมืดเข้ามาแทนที่ทันทีที่ตะวันลาขอบฟ้าไป คนสองคนที่เอาแต่เดินเอื่อยๆไปเรื่อยมาตางทางหลังจากที่เอาจักรยานไปคืนแล้วก็ต้องมาเดินกลับคอนโดกันอีก มือหนาค่อยๆกระชับมืออีกคนแน่นๆจนอีกคนต้องหันมามองด้วยความสงสัย

 

“ขอบคุณนะ”

 

“ครับ?”

 

“รักนะ”

 

“เหมือนกันครับ” รอยยิ้มที่เหมือนกับพลังที่ค่อยฟื้นฟูความเหนื่อยล้าถูกส่งมาให้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าเหนื่อยแค่ไหนเขาไม่เคยแสดงให้ใครเห็นยกเว้นคนๆเดียว คนที่ธรรมดาแต่สำหรับเขาพิเศษกว่าอะไรใดๆ

 

เขาถึงขอบคุณที่อีกคนยังอยู่ตรงนี้เสมอ

 

 

 

THEEND