Title: AV
Pairing: ZeloJungkook (Choi Junhong x Joen Jungkook)
Rate: NC
Author: red.bunny
Note: เรื่องอื่นๆสามารถอ่านได้
http://writer.dek-d.com/the-lettuce/story/view.php?id=1044826
———————————————————–
การลงทุนด้านสิ่งบันเทิงในปัจจุบันที่ถือว่ามีอิทธิพลมากมายในสังคม ถือเป็นการตัดสินใจที่ดี เช่นเดียวกับ บัง ยงกุกผู้กำกับมือทองที่เคยได้รางวัลมาจากทั้งหนังสั้น หนังยาว หนังไตรภาค เอาเป็นว่าเขาเคยจับมาแล้วหลากหลายรางวัล ตัดสินใจสร้างบริษัทโปรดักชั่นเป็นของตัวเอง
บริษัทหนังสำหรับผู้ใหญ่
เอาน่าอย่าทำมาเป็นไม่รู้จักไม่เคยได้ยินเลย ก็รู้ๆกันอยู่ว่าหนังสำหรับผู้ใหญ่เป็นยังไง
ไม่รู้ว่าเพราะอยากจะทำมานานหรือเก็บกดมาจากไหนยงกุกตัดสินใจเปิดบริษัทเกี่ยวกับหนังที่เรียกว่าAV ซึ่งตอนนี้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยังมีช่องทางมากมายให้เดินต่อไปได้ เรียกได้ว่ามีทุกแนวทุกประเภทที่อยากได้ โดยมีข้อบังคับข้อเดียวที่ต้องปฏิบัติเหมือนกันคือ
ห้ามให้เห็นหน้านักแสดงเด็กขาด
ยงกุกให้สิทธิ์นักแสดงทุกคนได้เติบโตต่อไป ฝีมือบางคนยังสามารถพัฒนาเพื่อไปอยู่ในช่องปกติหรือแนวหน้าได้ เขาไม่อยากให้รู้สึกว่าการทำงานในด้านนี้มันตัดโอกาสของนักแสดงเหล่านั้น เลยมีกฎข้อนี้ออกมารวมทั้งทีมงานทุกคนต้องห้ามปริปากพูดให้นักแสดงเสียหาย หากได้ลองพูดไป ยงกุกเองก็พอมีเส้นสายด้านมืดซะด้วย จัดการได้ไม่ยากนัก
นักแสดงที่มีความสามารถเหล่านั้นเลยสามารถเฉิดฉายได้ในทางที่ตัวเองฝันได้สบายๆ
ยกเว้นคนหนึ่งที่ไม่ยอมไปไหนซักที
ชเว จุนฮง พ่อพระเอกGV อันดับหนึ่งของบริษัทเขา ตามจริงเคยมีคนมาทาบทามให้จุนฮงไปแสดงทั้งละคร หนังต่างๆแต่เจ้าตัวกลับปฏิเสธ นอกจากงานถ่ายแบบแล้วจุนฮงไม่เคยจะรับงานอื่นเลย เขาเองก็ไม่เข้าใจเหตุผลมันนักหรอก เอาเถอะก็ดีแล้ว ยังไงยอดขายของจุนฮงไม่เคยจะตกลงเลย
“ข่มขื่น??” หลังจากได้อ่านใบรับงานอันใหม่เสร็จ จุนฮงก็หันมามองยงกุกอีกรอบ
“ใช่”
“ก็เคยทำแล้วนี่”
“ก็มีคนบอกว่ามันไม่สมจริง” จุนฮงได้แต่กลอกตาไปมา ให้ตายคนดูนี่มันเรื่องมากเหมือนกันนะ
“จะรับมั้ยงานนี้จ่ายไม่อั้น” คิ้วเข้มเลิกมองคนเป็นพี่พร้อมด้วยตำแหน่งประธานเป็นเชิงถาม
“เท่าไหร่”
“มากกว่าสองปีที่มึงทำมาอีก” พอได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ตกใจ นี่มันขนาดนี้เลยหรอเอาเถอะ เขาไม่ใช่ว่าเห็นแก่เงินอะไรขนาดนั้น เผลอๆบริษัทเขาอาจจะได้นักแสดงเพิ่มก็ได้จะว่าหลงตัวเองก็ได้แต่เขาว่าลีลาตัวเองเด็ดพอดู
“ตกลง”
“ไม่ต้องห่วงเดี๋ยวกูจัดการเรื่องคนแสดงเอง”
“นี่ไม่ใช่ว่าจะไปลักพาตัวมานะ” ได้แต่มองท่านประธานอย่างจับผิด แต่ยากที่คนอายุมากกว่าจะยอมพูดยังไม่พอทำมือไล่เขาออกห้องไปอีก
หนาว
ง่วงด้วย
มืดอีกต่างหาก
หลังจากที่ร่ำลาจากเพื่อนที่คณะเสร็จเขาก็เดินกลับบ้านตามปกติ แต่อยู่ๆก็รู้สึกวูบไปทั้งๆที่เขาก็เป็นคนแข็งแรงดี พอตื่นมาก็มีความรู้สึกแบบนี้
“เฮ้ย” แถมยังไม่มีเสื้อผ้าติดตัวอีก
พรึ่บ
ตากลมหรี่ลงทันทีที่ผ้าปิดตาถูกกระชากออกไป แสงแฟลชจากสี่มุมห้องทำให้เขาต้องกระพริบตาถี่ๆหลายรอบกว่าจะปรับสายตาให้ชินได้ มือที่ถูกมัดให้ตรึงกับหัวเตียงพร้อมกับเสื้อผ้าที่หายไป ไหนจะผู้ชายร่างสูงที่คร่อมเขาอยู่นี่อีก
วอท
“เอาละ” เสียงทุ้มจากคนที่คร่อมเขาอยู่พูดขึ้น ก่อนที่จะก้มลงมากระซิบข้างหูของเขา
“มาเริ่มกันเถอะที่รัก”
“ที่รักอะไร” ตากลมมองด้วยความสงสัย แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ฟังเขาเลยปากหยักที่เริ่มเม้มตามซอกคอขาวโดยที่ไม่ฟังคนที่กำลังโวยวายเลยด้วยซ้ำ
“เฮ้ยปล่อยสิวะ” เพราะขาที่ยังเป็นอิสระอยู่ตัดสินใจถีบคนตรงหน้าไปเต็มๆ เล่นเอาจุนฮงถอยไปหลายก้าวเหมือนกัน ร่างสูงจิ๊ปากเบาๆก่อนจะเดินเข้ามาอีกครั้ง
“นายบังคับให้ฉันทำแบบนี้เองนะ” มือแข็งแรงกระชากข้อเท้านั่นแรงๆให้คนที่ถอยร่นไปอยู่ติดหัวเตียงถลามานอนอยู่บนเตียง แรงบีบที่เพิ่มมาขึ้นจนเขามั่นใจว่าข้อเท้าต้องเป็นรอยแน่ๆ ไหนจะความแสบจากผ้าที่มัดข้อมือเขาไว้อีก ยังไม่ทันที่จะได้ตั้งตัว
“เฮ้ย ดะ..” ริมฝีปากบางถูกปิดด้วยริมฝีปากของคนที่คร่อมอยู่ ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมให้ลิ้นร้อนเข้าไปทักทายในโพรงปากหวาน มือของร่างสูงจัดการบีบกรามของอีกคนให้บังคับอ้าปาก
ลูกอมรสหวานถูกส่งไปในโพรงปากของอีกคน ก่อนจะลิดรอนลมหายใจของอีกคนพร้อมกับความรู้สึกหวิวๆ พอเห็นอีกคนเริ่มดิ้นเลยตัดสินใจละจากริมฝีปากบางที่เริ่มกลายเป็นสีแดงตัดกับผิวของเจ้าตัว
หวานชะมัด
ก่อนจะยืนมองคนที่ได้อมลูกที่เขาตั้งใจให้ไปแล้ว พลางนั่งดูผลงานของตัวเอง
“คุณเป็นใคร”
“ชเว จุนฮงครับ” ไหนๆก็ว่างแล้วเลยตัดสินใจแนะนำตัวให้อีกคนได้รู้จักซักหน่อย ไม่ต้องรอนานอีกต่อไป เพราะเมื่ออีกคนจะพูดประโยคต่อไป ดูมันจะพูดออกมาไม่ง่ายเหมือนประโยคแรกซักแล้ว เหงื่อที่เริ่มผุดมาตามขมับ พร้อมกับความร้อนในร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้น ขาทั้งสองข้างที่เริ่มเสียดสีกันเพื่อบรรเทาความทรมาน
“แกเอาอะไรให้กิน” แม้จะคายออกไปแล้วแต่อาการที่เป็นอยู่ก็ยังไม่หายไป
“เอาน่า ไม่ใช่เด็กๆแล้วแค่นี้ไม่รู้หรอครับ”
“แก อ่ะ” เพราความรู้สึกเสียวที่อยู่ๆก็เข้ามาโดยไม่ได้ตั้งใจ ไหนจะเผลอไปสบตากับคนที่ยืนกอดอกมองเขาด้วยสายตาที่แทบกินเขาได้ทั้งตัว
“อ้อนวอนผมสิ” จุนฮงมองร่างที่บิดไปมาบนเตียง แม้อยากจะกระโจมไปขนาดไหนแต่เพื่อให้ไม่ต้องได้หาคนมาใหม่อีกเขาต้องทำให้ดูก่อน
“ที่รักช่วยข่มขื่นผมที ลองพูดสิครับ” ริมฝีปากบางเม้มแน่นราวกับว่าไม่มีทางที่จะพูดคำนั้นออกมาได้ จุนฮงยักไหล่เล็กน้อย ก่อนจะตัดสินใจนั่งลงบนเตียงข้างๆกับคนที่กำลังทรมานอยู่ ส่งนิ้วเรียวของตัวเองไล้ไปตามผิวขาวที่เริ่มขึ้นสีระเรื่อเพราะยาที่เขาเพิ่งให้กิน
“อ่ะ ชะ ช่วย ขะข่มขื่น ผะ ผมที ทะ ที่ ระ” ไม่ทันจบประโยคริมฝีปากของคนที่กำลังไล้ตามผิวก็ประกบกับอีกคนทันที ปลายลิ้นที่ตวัดไล้อยู่ในโพรงปากนั้นทำเอาเขาวูบวาบไปทั้งตัว
“ให้ผมช่วยนะครับ” เพราะเสียงที่ตั้งใจให้แหบพร่าและยังพูดใกล้ใบหูของอีกคน ใบหน้าที่เริ่มแดงจากฤทธิ์ยาสะบัดหนีจากสัมผัสนั่นทันที
เขาทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้วะเนี่ย
โอกาสแม้แต่จะโวยวายหรือขัดขืนแทบไม่มี เหมือนคนกำลังดื่มเหล้าดีกรีแรงๆไปหลายช็อต มันดูอื้ออึงไปหมด ชัดเจนแต่เหมือนจะบังคับอะไรไม่ได้เลย
มือยาวที่กอบกุมแก่นกายของเขาก่อนจะลูบขึ้นลงด้วยความชำนาญ เพราะกับเขาเองที่กระเด้งสะโพกสวนกับจังหวะที่อีกคนให้มา แต่ดูเหมือนว่าจุนฮงจะทำให้ไม่ทันใจเท่าไหร่นัก
“ระ เร็วอีก” ดวงหน้าขาวเชิดขึ้นเพราะความเสียวที่เกิดขึ้น จุนฮงระดมจูบพร้อมกับทิ้งร่องรอยตามซอกคอ แผ่นอกของอีกคน มือยังทำหน้าที่ไม่ขึ้นตกบกพร่องจนอีกคนถึงจุดปลดปล่อย
“ว้าแย่จังเปื้อนมือเลย” สายตาที่ส่งมาด้วยความเคียดแค้นหาได้ระคายต่อคนพูดไม่ ขายาวจัดการเข้าไปแทรกกลางหว่างขาของอีกคนทันที ยังไม่ทันที่จะได้โวยวายหรือถามไถ่ นิ้วเรียวทั้งสามก็ถูกส่งเข้าไปในช่องทางด้านล่างทันที เลือดที่ไหลออกมาเพราะยังไม่มีการเตรียมการที่ดีเป็นตัวหล่อลื่นให้จุนฮงสำหรับกดนิ้วของตัวเองเข้าไปได้ลึกกว่าเดิม
“เอาออกไปนะ ไอ..อ่ะ” จุนฮงกระตุกยิ้มทันที่น้ำเสียงของอีกคนเปลี่ยนก่อนจะตัดสินใจกดย้ำที่จุดนั้นเรียกเสียงครางจากอีกคนมาเป็นที่ยืนยัน
ก่อนจะดึงนิ้วออกพร้อมกัน ร่างทั้งร่างกระตุกเบาๆก่อนจะเกร็งอีกรอบเมื่อจุนฮงสอดวัตถุบางอย่างเข้ามาในช่องทางแทน
“เอาละ ทำให้ผมบ้างสิ” เป้ากางเกงที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าทำให้เขาเบี่ยงหน้าหนีทันที จุนฮงเห็นแบบนั้นเลยเลื่อนปุ่มให้วัตถุที่อยู่ภายในร่างกายอีกคนทำงาน ก่อนจะเขยิบตัวเองให้ใกล้หน้าอีกฝ่ายมากขึ้น เขาเลยไม่มีทางเลือก ฟันเล็กค่อยๆรูดซิปกางเกงลง ขบขอบบอกเซอร์ให้เลื่อนต่ำลงมาจนแก่นกายของอีกคนเด้งมากระทบกับแก้มของเขา
“เลียสิครับ” รีโมทในมือถูกปรับจากเบอร์1กลายเป็นเบอร์2 ได้รับเสียงอื้ออาจากคนที่กำลังปรนเปรอให้เขาเป็นที่หน้าพึงพอใจ เอวแกร่งเด้งสวนเข้าไปในโพรงปากอีกคนทำให้เขาได้แต่มองค้อนให้ ก่อนจะผละออกจากปากอีกคน จับให้พลิกตัวแล้วถอดเจ้าอุปกรณ์นั่นออก แทนที่ด้วยแก่นกายของเขาจนมิดด้าน
ให้ตายแน่นชิบ
มันแน่นจนเขาแทบจะปลดปล่อยทันที แต่ก็ต้องขยับแรงๆให้อีกคนสะดุ้งเบาๆโน้มตัวมาระดมจูบลงบนหลังเนียน พลางกระซิบข้างหูของอีกคน
“อย่ากลั้นเสียงสิครับผมอยากได้ยิน” ขบติ่งหูเบาๆ ก่อนที่คนใต้ร่างจะเผลอครางเสียงหวานออกมาให้ได้ยิน มือที่ว่างจัดการเลื่อนขึ้นมาแตะที่ยอดอกที่แข็งเป็นไต เค้นจนเขาต้องครางออกมา
ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันจบลงเมื่อไหร่เขาจำได้แค่ว่าตัวเองตาลายมากขนาดไหน ไม่แน่ใจว่าร้องขอไปมากเท่าไหร่ความเป็นตัวเองวันนั้นแทบจะหายไปเพราะฤทธิ์ยาที่ได้รับ
“จองกุกรอก่อนสิ” พอหลังจากวันนั้นมา เขาจอน จองกุกคนที่โดนหลอกให้ไปถ่ายหนังบ้าๆนั่นก็ต้องมาเจอกับฝันร้ายมันทุกวัน
“กลับไปเถอะครับคุณจุนฮง” เขาพยายามแล้วที่จะตีตัวออกห่าง แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ยอมยังมาหน้ามาเดินข้างเขาหน้าระรื่น
จองกุกจะบ้าตาย
หนึ่งเดือนผ่านไปแล้ว จองกุกตื่นมาเจอสภาพตัวเองที่ เอิ่มนะ บนรถของใครซักคน ซึ่งคนคนนั้นก็คือจุนฮงไงละ แล้วไงก็ตามเขาทั้งหลังเลิกเรียน วันหยุด พักเที่ยงถ้ามาได้คงมาไปแล้ว
“ใจร้ายจังทำไมวันนั้นยังเรียกที่รักอยู่เลย”
“นี่คุณ!!” จุนฮงปรี่เข้ามาปิดปาดด้วยความตกใจ ก่อนจะลากจองกุกเข้าร้านอาหารใกล้ๆ
“อยากกินอะไรละ”
“ไม่หิว” ก่อนจะหันไปมองอย่างอื่นข้างนอกแทน ทั้งที่คิดกับตัวเองว่าเลิกเสร็จจะไปกินสุกี้ยากี้ซักหน่อย แล้วนี่อะไรโดนลากมาร้านสเต็กเนี่ยนะ
เอ๊ะ นี่เขาไม่พอใจอะไรกันแน่
“เอาสเต็กเนื้อสอง แล้วก็ชีสบอลครับ” เสียงทุ้มสั่งพนักงานเสร็จก็หันมามองหน้าอีกคนที่กำลังสนใจวิวข้างนอกมากว่าเขา
อันที่จริงจุนฮงไม่จำเป็นต้องมาตามดูจองกุกแบบนี้ก็ได้ คนในบริษัทเขาจัดการได้อยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าเขาถูกใจคนนี้ซะแล้ว ใบหน้าที่เห่อร้อนสายตาเยิ้มที่อ้อนวอนเขา มันน่าจับกินไปอีกนาน
ถูกใจจนไม่อยากให้ใคร
แม้แต่แผ่นหนังที่อัดเขาก็ขอให้ยงกุกอย่าได้ปล่อยมันออกไป
และแปลกที่ยงกุกยอมง่ายๆ
หลังจากจัดการอาหารจนเสร็จแน่นอนว่าจุนฮงบังคับอีกคนให้กินโดยการขู่สารพัดนั่นแหละ ก่อนจะพาอีกคนไปส่งที่คอนโด ถามว่าจุนฮงรู้ได้ไง ก็ขู่จองกุกอีกนั่นแหละแม้ยังไม่ได้ไปส่งถึงห้อง แต่แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้ว
“แล้วพรุ่งนี้จะมารับนะที่รัก” ได้สายตามองค้อนพร้อมกับการปิดประตูที่บอกได้เลยว่าเจ้าตัวอารมณ์เสียขนาดไหน รอซักพักให้ห้องที่เขามั่นใจแน่ๆว่าเป็นของจองกุกเปิดไฟก็ตัดสินใจออกรถไปด้วยความอารมณ์ดี
อีกไม่นานหรอก จอน จองกุกต้องเป็นของชเว จุนฮง
อีกด้านหนึ่ง
จองกุกที่กำลังทอดมองรถยนต์ที่ดูเหมือนช่วงนี้เขาจะได้นั่งมันบ่อยๆพลางยิ้มให้ในใจ เสียงข้อความเข้า ทำให้จองกุกต้องผละตัวเองจากหน้าต่างมามองโปรแกรมแชทในมือแทน
‘เป็นไงบ้าง??’
From Bang.YG
มือเรียวพิมพ์ตอบกลับทันที ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำด้วยความอารมณ์ดี
‘เหยื่อไม่หลุดเบ็ดแน่นอน:p’
ก่อนหน้านั้น
คงเพราะความเบื่อหรืออะไรซักอย่างทำให้จองกุกตัดสินใจมาหายงกุกผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องที่บริษัท ทั้งที่ปกติจองกุกแทบไม่เคยมา ไม่สิ ไม่เคยมาเลยต่างหาก พอมีโอกาสหลังจากไปเรียนเป็นนักเรียนทุนกลับมาเลยมาเยี่ยมบ้าง
ห้องท่านประธานดูจะโล่งเกินไปในความคิดของจองกุก ด้วยความเป็นคนอยู่นิ่งไม่ค่อยจะได้เลยไปหยิบหนังสือแถวนั้นมาดู
“พี่”
“หืม?” คนที่ก้มหน้าก้มตาทำงานตอบกลับมาทั้งที่ยังไม่มองหน้าด้วยซ้ำ
“คนนี้ใครอ่ะ” ยกหนังสือในมือไปให้อีกคนดู พลางชี้ไปที่คนในรูป
“จุนฮง เด็กในบริษัท”
“อยากได้” ยงกุกละจากกองเอกสารหันมามองอีกคน พลางเลิกคิ้วให้เป็นเชิงถามว่าเอาจริงดิ จองกุกพยักหน้าให้คนเป็นพี่เบาๆ
“เคยเห็นจองกุกคนนี้ไม่เอาจริงหรอ”
“แล้วแกจะทำไง” จองกุกกระตุกยิ้มเบาๆ อยากได้ของยากสงสัยต้องเล่นละครซักหน่อยแล้วมั้ง
“เดี๋ยวจองกุกจัดการเอง พี่ต้องช่วยนะ” ถามว่ายงกุกเคยไม่ตามใจน้องมั้ย ก็ไม่ไง เลยปล่อยให้อีกคนคิดแผนการเอง โดยมีเขาเป็นคนปฏิบัติตามแผนทั้งนั้น
ชเว จุนฮงต้องเป็นของจองกุกแน่ๆเขามั่นใจ
END