(fic) junkwang – coffee or me

Title: coffee or me

Pairing: YongJunHyung x LeeGikwang

Rate: nc-15

Author: red.bunny

NOTE : ยังไม่เอ็นซีมากนะคะ แค่เรตนิดๆ ใครรู้ว่าใช้เรทแบบไหนดีช่วยบอกทีนะคะ5555 พอดีว่าเห็นคำนี้ในทวิตเลยเอามาแต่งดู จริงๆเรามีอีกพลอตเรทๆอีกแล้ว5555

 


 

 

 

 

“ไงกีกวัง” เขาหันไปมองตามเสียงที่เพื่อนเขาพูดก่อนจะพบกับเจ้าของชื่อที่เดินเข้ามาพร้อมกับเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอยู่ ก่อนเจ้าตัวจะนั่งลงบนโซฟาที่นั่งประจำ

 

“วันนี้อยู่ดึกเลยละสิ” เป็นกีกวังที่กำลังคุยอยู่กับเพื่อนเขา ส่วนเขายังคงหมกหมุ่นอยู่กับการแต่งเมโลดี้เจ้าตัวเองก็คงไม่อยากมากวนมากนักถึงได้ไปนั่งคุยกับเพื่อนเขาแทน

 

“เอ้า ยงจุนฮยอง” สัมผัสเย็นๆที่เกิดจากที่เพื่อนเขาเอาแก้วเครื่องดื่มมาแนบกับแก้มเขาจนเผลอตกใจก่อนจะมองด้วยความไม่พอใจแต่ก็คว้าแก้วไปดูด

 

“ดูทำหน้าดิ้ ฮ่าๆ” จุนฮยองเลิกสนใจเพื่อนเขาแล้วหันไปมีสมาธิกับเจ้าเครื่องด้านหน้าตัวเองมากกว่า

 

“แล้วนี่ซ้อมเสร็จแล้วหรอ” เพราะได้ยินว่าอีกคนจะมีโซโล่เป็นของตัวเองแถมรอบนี้เหมือนเจ้าตัวจะมีส่วนร่วมกับทุกกระบวนการ ถึงไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตานัก น้อยครั้งมาดึกๆแบบนี้จนเขาชักจะเป็นห่วง

 

เป็นห่วงเพื่อนรักเขามันจะเหงาตายก่อน

 

“ใช่ เหนื่อยสุดๆอ่ะ” กีกวังตอบรับก่อนจะบ่นเรื่องต่างๆให้ฟัง ในขณะที่ตาก็ยังมองไปที่คนนั่งทำเพลงเป็นระยะ

 

“เออกลับก่อนนะ” จนเวลาล่วงมามากตอนนี้เขาเองก็ไม่ได้ตัวคนเดียวแล้วยังไงการกลับบ้านตรงเวลาก็คงเป็นสิ่งเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่ยิ่งที่เกิดขึ้น แรกๆมันก็ไม่ชินเท่าไหร่แต่พอทำไปนานๆมันก็กลายเป็นความชินแล้วเป็นสิ่งที่ต้องทำไปซะแล้ว

 

“อื้ม กลับดีๆนะ” กีกวังบอกลาก่อนที่เขาจะเอ่ยบอกคนที่ยังทำเพลงไม่สนใจใครทั้งนั้นให้รู้

 

งานก็ไม่ได้รีบขนาดนั้นนี้

 

สตูดิโอเหลือคนเพียงสองคนที่นั่งห่างจากกันไม่มากมีเพียงแค่เสียงดนตรีที่ดังเป็นระยะแทนบทสนทนาที่ควรจะมี ถึงอย่างนั้นมันกลับไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด

 

มือหนาคว้าแก้วอเมริกาโน่เย็นมาดูดแต่ก็พบว่ามันหมดแล้ว เขาควรไปซื้อเพิ่มสินะ

 

จุนฮยองตัดสินใจลุกจากที่นั่งเพื่อไปหาซื้อคาเฟอีนมาให้ร่างกายเพิ่ม มือคนที่นั่งอยู่โซฟาคว้าไว้ก่อนเขาจะออกจากห้องได้

 

“งานเร่งหรอ”

 

“ก็ไม่นะ”

 

“งั้นยังไม่ทำได้มั้ย” ไม่รู้ว่าอีกคนมาไม้ไหน สายตาหมาน้อยอ้อนถูกงัดขึ้นมาใช้อีกครั้งและทุกครั้งเขาจะต้องแพ้ให้มันทุกที

 

“ระหว่างกาแฟหรือฉันละ”

 

 

“อ่ะ เดี๋ยวก่อน อื้ม” เสียงหอบหายใจดังขึ้นเป็นระยะเพราะความรีบร้อนของอีกคนจนเขาไม่ทันได้ตั้งตัว

 

แคบเกินไป

 

กีกวังบ่นในใจถึงอย่างนั้นเขาก็ท้วงอะไรไม่ได้เมื่อมือของอีกคนขย้ำสะโพกเขาตามแรงอารมณ์มากขึ้นทุกที เบาะคนขับที่จุนฮยองนั่งอยู่เขาที่นั่งคร่อม จมูกโด่งของอีกคนและปากกำลังวนเวียนอยู่กับหน้าอกของกีกวัง

 

“มีหรอในรถ” มือกีกวังกำกลุ่มผมของจุนฮยองเพื่อระบายความเสียวเมื่ออีกคนเริ่มสอดนิ้วเข้าไปในช่องด้านหลัง สะโพกสอบขยับชิดบดเบียดกับอีกคน ขย่มเบาๆเพื่อให้แก่นกายเสียดสีกัน

 

“ไม่มี”

 

“ไม่ได้สิ” แขนคล้องอยู่กับคอถึงกับผละออกทันทีที่เขาถามถึงสิ่งที่ต้องใช้ จุนฮยองจิ๊ปากเล็กน้อยแต่ก็ยอมใส่กางเกงและกลัดกระดุมให้เรียบร้อย

 

เสื้อยืดโอเวอร์ไซต์สีขาวถูกดึงกลับมาที่เดิมเช่นเดียวกับกางเกงวอร์มสีดำของเขาก่อนจะเปิดประตูด้านคนขับเพื่อลงไป ก่อนจะตามมาด้วยเจ้าของห้องอย่างจุนฮยอง

 

 

“อย่าเพิ่งเดี๋ยวคนเห็น” มือหนายังคงวนเวียนอยู่กับเอวของเขาทั้งลูบและขยำอยู่อย่างนั้นตลอดเวลาที่อยู่ในลิฟต์ กีกวังได้แต่ภาวนาให้ถึงเลขชั้นที่ต้องการเร็วๆ

 

“อืม จุนฮยอง” คอขาวถูกซอกไซ้อีกครั้งแม้ว่าจะโดนดันเท่าไหร่อีกคนก็ไม่ยอมละจะลำคอของกีกวังซักที จนกีกวังเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหมดแรงเอาดื้อๆ

 

น่ารัก

 

เมื่อมือที่ดันอกเขาอยู่ค่อยๆอ่อนแรงลงตรงข้ามกับลมหายใจของอีกคนที่รู้สึกจะหายใจแรงขึ้น ติดขัดขึ้น มือเขาค่อยล้วงเขาไปในสาบเสื้อของอีกคน ก่อนจะลูบตามหน้าท้องที่เป็นกล้ามของอีกคน

 

ติ้ง

 

เจ้าคนในอ้อมแขนแทบจะวิ่งออกจากลิฟต์ให้ได้ เขาได้แต่ยิ้มขำให้ในเมื่อเจ้าตัวเป็นคนชวนเขาไม่ใช่หรือไงเกิดเขินขึ้นมาซะดื้อๆ

 

ถ้าไม่ติดว่าในรถไม่มีนะ

 

ได้แต่แค้นใจที่ไม่ได้ซื้อเตรียมไว้ในรถคงเพราะเขาไม่คิดว่าจะมีอะไรแบบนี้ในรถบ่อยนัก พอมีขึ้นมาถึงได้ไม่พร้อมกันแบบนี้ไง

 

แกร่ก

 

ปัง

 

“ฮื่อ” ทันทีที่เปิดประตูจุนฮยองดันอีกคนให้ติดประตูก่อนจะประกบปากอิ่มที่ดูเหมือนจะยั่วมากขึ้นเพราะจากเหตุการณ์ในรถที่ผ่านมา

 

ปากหนาค่อยๆแทรกเข้าไปในโพรงปากของอีกคน ลิ้นเล็กกว่าตวัดอย่างรู้งาน กีกวังจูบเก่งกว่าที่ใครหลายคนคิด ถึงจะเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่ได้อยากให้ใครมาลองมากนักหรอก

 

มืออยู่ว่างลูบไล้ตามร่างของอีกคนก่อนจะล้วงเข้าไปในเสื้อยืดตัวบางของอีกคน บดขยี้ยอดอกของอีกคนให้ได้ยินเสียงครางในลำคอด้วยความทรมานนั้น

 

“ห้องนอน” จุนฮยองแทบจะอุ้มอีกคนไปในทันทีที่เสียงแหบนั้นกระซิบข้างหูเขา

 

 

 

สิบโมงเช้าแล้ว สำหรับกีกวังยังถือว่าเช้าไปด้วยซ้ำกับคนที่ใช้เวลาช่วงกลางคืนมากกว่า แต่เพราะว่าเหนียวตัวจนทนไม่ไหวเลยต้องพยายามฝืนตัวเองไปอาบน้ำ

 

แล้วค่อยมานอนต่อแล้วกัน

 

เมื่อคืนกว่าที่จะได้นอนก็ตีสามเข้าไปแล้ว

 

เสียงน้ำในห้องน้ำดังพอจะปลุกอีกคนให้ตื่นได้ก่อนจะพบว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆไม่อยู่แล้วก่อนจะพาตัวเองลุกบ้าง เพราะเขาแค่รู้สึกว่าตัวเองคงนอนต่อไม่ได้แล้วก็เท่านั้น

 

ยืนเหม่อรอกาแฟที่ไหลมาจากเครื่องจนไม่ได้ยินเสียงเปิดประตูห้องน้ำ กว่าจะรู้ตัวก็ตอนที่อีกคนเดินเข้ามากอดเอวเขาจากด้านหลังแล้ว กลิ่นแชมพูจากอีกคนทำให้เขาต้องหมุนตัวไปหาอีกคนก่อนจะหยิบผ้าเข็ดผมมาเช็ดให้เล็กน้อย

 

ปากอิ่มยื่นเข้ามาประกบกับปากของเขาก่อนจะแทรกลิ้นเล็กเข้ามากวาดความหวาน จูบของกีกวังไม่เคยมีความรีบเร่ง เหมือนกับกีกวังที่ใจเย็น ช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป แต่น่าหลงใหลอยู่เสมอ

 

“ฉันหรือกาแฟละ?”

 

“ไหวหรอ” น้ำเสียงเหมือนจะถามด้วยความเป็นห่วงแต่มือของจุนฮยองกลับไปอยู่ที่แผ่นของอีกคนแล้ว แขนของคนที่อาบน้ำเสร็จแล้วค่อยๆคล้องกับคออีกคนก่อนจะออกแรงดันให้จุนฮยองชิดกับเคาท์เตอร์แทรกขาตัวเองไว้ระหว่างขาของจุนฮยอง

 

“ก็มีเวลาทั้งวันนะ” สายตาที่เจ้าตัวชอบใช้เวลาถ่ายแบบ สายตาที่ชวนเข้าไปค้นหาใกล้ๆน่าเย้ายวน สายตาราวกับเชิญชวนให้จุนฮยองเข้าไปสัมผัสทุกส่วนในร่างกายที่แม้ว่าเขาจะสัมผัสมากี่ครั้งก็ไม่เคยพอ

 

“ทำไมใจดีจังวันนี้”

 

“ก็คิดถึงอ่ะไม่ได้หรอ”

 

“ได้ครับได้ทั้งวันเลย”

 

ใส่ความเห็น